ในทุกการพนัน โดยเฉพาะกับการแทงบอล ‘ข้อมูล’ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการเดิมพัน เพราะคุณต้องใช้ข้อมูลทางฟุตบอลมาใช้ในการวิเคราะห์ และคำนึงถึงความเป็นไปได้ของคู่บอลนั้น ๆ ว่าทีมไหนฝั่งไหนมีโอกาสที่จะถูก หรือกินราคาตามที่โต๊ะตั้งมามากกว่า โดยเราเองก็รู้ว่าทุกคนก็คงมีการหาข้อมูลอยู่ตลอด ในทุก ๆ การวิเคราะห์ แต่ทั้งนี้ เราก็มักจะสังเกตจุดผิดพลาดหลายอย่างในการหาข้อมูล
- ทั้งการนำไปใช้แบบผิด ๆ
- การเพิกเฉยต่อบางข้อมูลที่สำคัญ ๆ
ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาช่วยแนะนำทุกคน และช่วยระวังไม่ให้มีการผิดพลาดเกิดขึ้นในการใช้และหาข้อมูล ด้วยการอธิบายถึง 4 ข้อมูลเบสิกที่ต้องใช้วิเคราะห์ในการพนัน เพื่อให้คู่บอลที่คุณเลือกมีการวิเคราะห์จากข้อมูลที่ถี่ถ้วน และได้เปอร์เซ็นต์ความแน่นอนความชัวร์ที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ โดยทั้ง 4 ข้อมูลจะมีทั้งเรื่องที่คุณเคยใช้หรือใช้ประจำ และเรื่องที่คุณเคยมองข้ามไปบ้างแต่กลับมีความสำคัญครับ ซึ่งแต่ละข้อมูลเบสิกที่ต้องใช้ มีรายละเอียดดังนี้ครับ
1.ดูตารางคะแนน
ถือว่าเป็นวิธีที่เบสิกมาก แต่เราคิดว่าคุณอาจจะไม่รู้ว่า ตารางคะแนนสามารถบอกอะไรกับคุณได้มากกว่าที่คุณคิด โดยปกติเรามักจะดูแค่ว่าทีมนี้ห่างกับทีมนี้กี่อันดับ แต่จริง ๆ มันดูได้มากกว่านั้นครับ
- แต้มเกมเยือน-เกมเหย้า เพื่อดูว่าทีมนั้น ๆ ถนัดการเล่นนอกบ้านหรือในบ้านมากกว่ากัน
- การดูประตูที่ได้และเสีย เพื่อดูว่าทีมนั้นมีเกมรับและเกมรุกที่ดีหรือแย่ขนาดไหน จากนั้นก็ดูจำนวนแต้ม เพราะบางลีกถึงจะมีอันดับต่างกันเยอะ แต่แต้มสูสีก็มี เพราะฉะนั้นต้องดูคะแนนให้ดี ๆ
- ที่สำคัญ ตารางคะแนนนั้น สามารถบอกถึงแรงจูงใจได้ครับ ว่าทีมไหนต้องการอะไร อย่างกลุ่มทีมหัวตารางซักอันดับ 1-2 ก็ต้องการลุ้นแชมป์เป็นหลัก ส่วนทีมอันดับรองลงมาสักหน่อย ก็จะลุ้นการตำแหน่งโควตาในการเล่นบอลยุโรป และในส่วนทีมท้ายตารางก็จะลุ้นหนีตกชั้น
ซึ่งในปัจจัยส่วนนี้สามารถทำให้เรารู้ได้ว่า แต่ละทีมมีแรงจูงใจหรือโอกาสในการลุ้นแต่ละนัดมากน้อยเพียงไหน ซึ่งแรงจูงใจพวกนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ครับ
2.ดูสถิติ
อีกหนึ่งเทคนิควิเคราะห์สำคัญที่เราคิดว่านักพนันทุกคนต้องนำมาใช้แน่นอน แต่วันนี้เราจะมาบอกถึงสถิติทุกอย่างที่จะต้องใช้มาวิเคราะห์ และบอกว่าแต่ละสถิติช่วยอะไรและมีหลักการดูอย่างไรบ้าง
- สำหรับสถิติแรกที่ควรดูก็คือฟอร์มการเล่น โดยก็ดูเป็นสถิติการเล่น 5-10 นัดหลังสุด ซึ่งก็ต้องดูทั้ง 2 ทีมนะครับ ว่าทีมไหนมีฟอร์มที่ดีกว่าต่างกันขนาดไหน
- จากนั้นก็ดูสถิติการพบกันครับ เพื่อดูว่ามีการชนะทางหรือแพ้ทางกันไหม โดยในสถิตินี้เราแนะนำให้ดูแค่ 5 นัดหลังสุดก็พอแล้วครับ เพราะถ้าย้อนไปกว่านี้มันจะเป็นสถิติซีซันที่เก่าไป ซึ่งมันใช้วิเคราะห์อะไรไม่ได้แล้วครับ
- สุดท้ายนะครับ ก็ดูสถิติการเล่นในบ้าน-นอกบ้านของทีมนั้น ๆ เพื่อดูว่าทั้ง 2 ทีมมีฟอร์มการเล่นในบ้าน-นอกบ้านเป็นอย่างไรบ้าง เพราะฟอร์มการเล่นและความถนัดมันต่างกันนะครับ เพราะบางทีมก็ถนัดเล่นเหย้า บางทีมก็ถนัดเล่นเยือน โดยจุดนี้ก็ดูย้อนหลังได้ประมาณ 5-10 นัดครับ
และนี่คือการดูสถิติทั้งหมด ดู 3 อย่างนะครับ สถิติการเล่น 5-10 นัดหลังสุด, สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด และสถิติการเหย้า-เยือน 5-10 นัดหลังสุดครับ
3.ดูนักเตะ
อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญครับ โดยหลัก ๆ คนส่วนใหญ่ก็จะดูว่าทีมนั้นมีตัวหลักลงครบไหม ถ้าครบก็ถือว่าผ่าน อันนี้ถือว่าถูกต้องครับ โดยที่เราอยากแนะก็คือ
- อย่าลืมดูนักเตะฝั่งตรงข้ามด้วย เพราะถ้าฝั่งตรงข้ามมีนักเตะตัวหลักขาดไป ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เราได้ ว่าที่ตรงข้ามอาจจะเล่นได้ไม่ดีเหมือนเดิม อาจส่งผลให้คุณได้เล่นในราคาที่มีค่าน้ำมากขึ้น หรือลงเงินสูงขึ้นนั่นเอง
ถ้าสบโอกาสแบบนี้ ส่วนสำหรับใครเลือกคู่บอลลีกเล็ก ๆ อาจจะดูแค่ชื่อนักเตะแล้วไม่รู้ว่าคนไหนเป็นตัวหลัก เราแนะนำดูจากเว็บ whoscored ก็ได้ครับ ในเว็บนี้จะมีบอกคะแนน rating นักเตะแต่ละคน จำนวนประตูและจำนวนแอสซิสต์ของนักเตะแต่ละคน แค่คุณใช้เพียง 3 จุดนี้ ก็สามารถรู้แล้วว่านักเตะคนไหนเป็นคนสำคัญของทีมนั้น ๆ โดยหลัก ๆ ก็แนะนำให้ดูที่คะแนน rating เป็นหลักนะครับ เพราะจะวัดได้เลยว่านักเตะคนนั้นมีฟอร์มที่ดีมากน้อยขนาดไหน และที่สำคัญก็อย่าลืมดูทั้ง 2 ทีมนะครับ
4.ดูสไตล์การเล่น
ในจุดนี้มักเป็นจุดวิเคราะห์ที่หลายคนมักจะมองข้าม ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมันสำคัญไม่แพ้จุดอื่นเลยครับ เพราะมันจะทำให้คุณสามารถคาดเดารูปเกมคร่าว ๆ ได้และจะส่งผลให้คาดเดาความเป็นได้ของผลการแข่งขันได้ใกล้เคียงขึ้นด้วยครับ โดยคุณควรจะไปศึกษาดูว่าทั้ง 2 ทีมมีสไตล์การเล่นเป็นอย่างไร โดยสามารถดูได้จากช่องทางเหล่านี้
- คลิปเกมย้อนหลัง
- ดูจากคลิปวิเคราะห์ใน Youtube
- บทวิเคราะห์จากเซียนพนัน
โดยที่ให้ดูจุดนี้ก็เพราะสไตล์การเล่นมันมีผลต่อรูปเกมเยอะมาก อย่างทีม A เก่งมาก แต่สไตล์การเล่นแพ้ทางทีม B ก็ทำให้พลิกแพ้ทีม B ได้ง่าย ๆ เหมือนกัน ฉะนั้นก็ดูให้ดีครับว่าทั้ง 2 ทีมมีสไตล์เป็นอย่างไร เช่น ถนัดรุกริมเส้น, ชอบเล่นเกมเปิด, ถนัดเกมสวนกลับ, หรือถนัดเล่นรับ เป็นต้น จากนั้นก็นำมาคิดให้ดี ๆ นะครับ ว่าสไตล์การเล่นแบบไหนได้จะได้เปรียบในเกมการแข่งขันนั้น ๆ ครับ